5 สิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงไป หลัง COVID-19

by | Apr 8, 2020 | ธุรกิจคลินิกความงาม | 0 comments

แนวโน้มตลาด wellness 5 ข้อที่จะพลาดไม่ได้ หลัง covid 19

แนวโน้มตลาด wellness ใหม่ๆ รู้ไว้ไม่ตกเทรน

ในสถานการณ์ระบาดของไวรัส COVID-19 ในขณะนี้ ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน สังคมและเศรษฐกิจในวงกว้าง อย่างไรก็ตามช่วงนี้เองก็เป็นโอกาสที่ดีให้เราได้ปรับตัว ตลาดของสุขภาพก็เช่นกัน ยังมีโอกาสดีๆอยู่เสมอ ประโยคที่ว่า ทุกวิกฤติมีโอกาสซ่อนอยู่ คงจะใช้ในกับสภาวะเช่นนี้ เพราะเมื่อช่วงเวลานี้ผ่านไป เราจะเห็นหลายคนสร้างธุรกิจขึ้นมาใหม่ บางคนธุรกิจเติบโตยิ่งขึ้น จะดีกว่าไหม ถ้าโอกาสนั้นอยู่ในมือเรา

หลายๆคนอาจจะมีความกังวลเรื่องสถานการณ์ ว่าจะจบเมื่อไร และจะกระทบมากน้อยแค่ไหน 1 เดือน 2 เดือน หรือนานกว่านั้น หลายๆคลินิกเห็นการตกต่ำลงของยอดผู้ใช้บริการ  แต่ที่รู้แน่ๆ ไม่ช้าก็เร็ว วันหนึ่งปัญหานี้ก็จะผ่านไป และเราสามารถมองข้ามไปยังอนาคตข้างหน้าได้ แน่นอนว่าในตลาดสุขภาพยังคงมีแนวโน้มที่ดี และแน่นอนมันจะต้องมีรูปแบบที่เปลี่ยนไปจากที่เคยเป็น  และนี่เป็น 5 แนวโน้มสำคัญในตลาดสุขภาพ wellness หลังจากนี้

1. Proactive health

คนจะใส่ใจดูแลสุขภาพมากขึ้น ไม่เพียงแค่ดูแลแต่ภายนอก แต่จะใส่ใจดูแลสุขภาพตนเองจากภายในมากยิ่งขึ้น อย่างเช่น เรื่องของภูมิคุ้มกัน บางคนที่อาจจะไม่เคยคิดว่าเรื่องสุขภาพเป็นเรื่องใกล้ตัว จะเริ่มมีความตระหนักและหาแนวทางดูแลตัวเองให้ดีขึ้น และที่สำคัญการดูแลจะไปในรูปแบบเฉพาะบุคคลมากขึ้น และเน้นที่การป้องกันมากกว่าการรักษา

2. Lifestyle medicine

Lifestyle medicine หรือ วิถีชีวิตบำบัดจะได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น การบริโภคอาหารสุขภาพ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การพักผ่อนนอนหลับอย่างเพียงพอ ดูแลจิตใจและความเครียด หลีกเลี่ยงสารเคมี มลภาวะ และสารเสพติด และการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับครอบครัวและสังคม ได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นตัวแปรสำคัญในการป้องกันและฟื้นฟูโรคต่างๆ การบริการต่างๆที่มาตอบสนองความต้องการในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้ได้อย่างยั่งยืนจะเป็นกุญแจสำคัญในการดูแลสุขภาพหลังจากนี้

3. Telehealth

Telehealth หรือ การแพทย์ทางไกล จะถูกนำมาเป็นหนึ่งการบริการในวงการสุขภาพ ถูกพัฒนามาตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยอาศัยประโยชน์จากอินเตอร์เนตและเทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้น วิกฤตครั้งนี้เองได้ผลักดันให้เกิดความจำเป็นที่จะต้องประยุกต์ใช้ telehealth อย่างไม่มีทางเลือก

อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ น่าจะยังคงมีบทบาทสำคัญต่อไป ตัวอย่างเช่น การนำมาใช้ในการให้คำปรึกษา ติดตามผล หรือ การสอนการให้ความรู้กับผู้รับการรักษา ไม่เพียงแต่เพิ่มความสะดวก ยังสามารถช่วยเพิ่มคุณภาพในการดูแลรักษาได้อีกด้วย และยังสามารถต่อยอดสร้างการบริการถึงที่บ้าน service at home ต่อไปได้ด้วย อย่างเช่น การตรวจเช็คสุขภาพ การบำบัดรักษาเบื้องต้น และการฟื้นฟูร่างกาย

4. Mental wellness

สุขภาพจิตและปัญหาความเครียดจะมีมากขึ้น และความต้องการในการดูแลรักษาจะมีมากขึ้น ไม่จำกัดอยู่แค่ปัญหาโรคทางจิต แต่จะมีความสนใจในการดูแลสุขภาพจิตเชิงป้องกัน มากขึ้น ไม่รอให้ป่วยก่อน เช่น การฝึกจิต คิดบวก ทำสมาธิ จิตบำบัดในรูปแบบต่างๆ ปฏิเสธไม่ได้ว่าอนาคตข้างหน้าพวกเราทุกคนอาจต้องเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจอีกมาก แนวทางการบริหารจัดการความเครียดที่ดีเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ก้าวผ่านปัญหาอุปสรรคต่างๆไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

5. Aging society

เตรียมรับมือสังคมผู้สูงอายุ ผู้สูงอายุจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ มีการเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ ทั้งด้านสุขภาพ ธุรกิจ และสังคม หลังจากนี้มุมมองในการดูแลจะมุ่งเน้นที่การสร้างสุขภาพ แทนการรักษาโรค เพราะในปัจจุบัน ผู้สูงอายุมีแนวโน้มจะดูตัวเองดีขึ้น ยังคงทำงาน มีพละกำลัง และพร้อมจะใช้ชีวิตในสังคมอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหาร การออกกำลังกาย ความสวยความงาม เทคโนโลยี การท่องเที่ยว และที่สำคัญปฏิสัมพันธ์กับสังคมที่มากขึ้นกว่าที่เคยเป็นอย่างมาก โอกาสด้านสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุจึงยังเปิดกว้างอีกมาก

คำถามสำคัญคือ เราจะสร้างโอกาสที่ดีในช่วงนี้ได้อย่างไร หลายๆครั้ง เราติดกับสิ่งเดิมๆ ทำสิ่งเดิมๆ โดยไม่ทันได้คิดหาการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ แน่นอนสิ่งที่ทุกคนจะมีมากขึ้นในช่วงนี้คือเวลา ใช้เวลากับครอบครัว โอกาสวางแผนอนาคต เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ หาโอกาสใหม่ๆ และเริ่มต้นลงมือทำ ในอนาคตข้างหน้า เมื่อมองกลับมา ช่วงนี้อาจจะเป็นช่วงสำคัญที่สร้างความเปลี่ยนแปลงในชีวิตคุณก็ได้

นพ. ชวภณ กิจหิรัญกุล (Dr. Art)

Chawapon Kidhirunkul MD, MSc, PrMPH, ABAARM

Co-founder of Sanwiz Lab & Functional Wellness Consulting

Doctor Cosmetics Center

Get Started

พร้อมหรือยังที่ก้าวไปด้วยกัน